เฉาะหุ้น IPO
"NETBAY"
หุ้น IPO มีอยู่หลายตัวที่กำลังจะเข้าตลาด แต่มีหุ้นอยู่ตัวหนึ่งที่ดูน่าสนใจ
ชื่อฟังแล้วสะดุดหูสะดุดตา ผมจึงหยิบเอามาเสวนาดูก่อน ว่าจะน่าสนใจจริงๆดังชื่อของหุ้นหรือเปล่า
ซึ่งหุ้นตัวนั้นชื่อของเค้า ก็คือ NETBAY ชื่อจะฟังดูคลับคล้ายคลับคลา เวบไซต์ดังจากต่างประเทศ
EBAY
NETBAY ชื่อเต็มๆของเค้าคือ บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) Netbay
Public Company Limited
NETBAY เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการบริการ โดยเป็นผู้ให้บริการด้าน E-Business
แบ่งเป็น
3 กลุ่มหลักๆ
คือ 1.
กลุ่มบริการ e-Logistics
- บริการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่มีเอกสาร
(e-Customs Paperless)
อธิบายตรงนี้คือ เวลาประเทศของเรานำเข้า
ส่งออกสินค้าก็ต้องผ่านศุลกากรเพื่อคิดค่าธรรมเนียม นำรายได้เข้าคลังใช่ไหมครับ
เดี๋ยวนี้เค้าไม่ค่อยใช้กระดาษแล้วแต่ใช้ระบบออนไลน์เอา เพื่อถือใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออก
เป็นต้น NETBAY ก็ให้บริการด้านนี้แล้วก็คิดเงินเป็นรายได้ไปน่ะครับ
- การให้บริการชำระภาษีอากรทางอิเล็กทรอนิกส์ (Customs
e-Payment)
อันนี้ก็เหมือนการจ่ายเงินผ่านทางออนไลน์
เหมือนระบบจ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้า อะไรแบบนั้น แต่เป็นค่าภาษีของกรมศุลกากรแทน แทนที่เราจะไปต่อคิวจ่ายที่เคาท์เตอร์น่ะครับ
ก็ถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้อย่างมากกับโลกยุคใหม่นี้
- การให้บริการระบบรายงานบัญชีสินค้าเข้าออกแบบไร้เอกสาร
(e-Manifest)
- การให้บริการระบบผ่านพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับของเร่งด่วน
(e-Express)
อันนี้ก็คือการเพิ่มความสะดวกและความรวดเร็วในการส่งของโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง
2.
กลุ่มบริการ e-Services
- ระบบการให้บริการการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อส่งรายงานธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
(สำหรับสถาบันการเงิน) หรือ ETR Gateway (Electronic Transaction Reporting
Gateway)
สำหรับส่วนนี้คือบริการสำหรับ สำนัก ปปง. หน่วยปราบปรามการฟอกเงินที่จะใช้ตรวจสอบคนผิดคนโกง
โดยธนาคารต้องเป็นผู้ส่งข้อมูลให้ปปง. โดยมี NETBAY คอยให้บริการอีกทีหนึ่ง
- ระบบการให้บริการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า
หรือ CDD Gateway (Customer Due
Diligence Gateway)
รายการนี้คือบริการสำหรับตรวจสอบ
คัดกรองลูกค้าทางการเงิน ให้กับธนาคารและกลุ่มประกันภัย
- e-DLT
คือบริการรับชำระภาษีรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ ของกรมการขนส่งทางบก
3. บริการ e-Payment
คือบริการรับชำระเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์.
ดูไปแล้ว NETBAY น่าจะเป็นคู่ค้าหลักของกรมศุลกากรกับหน่วยงานของรัฐมากกว่าบริษัทเอกชน
เรามาดูกันว่าแต่ละการบริการของ NETBAY ทำเงินทำกำไรกันเท่าไหร่
หลังจากที่ได้เห็นตัวเลขทางการเงินนี้แล้ว
สรุปได้ว่า
รายได้หลักของ NETBAY มาจากกลุ่มธุรกิจบริการ
e-Logistics มาเป็นอันดับหนึ่ง
โดยมี
E-Custums Paperless จากกรมศุลกากร
เป็นธุรกิจที่เชิดหน้าชูตาให้กับบริษัท ทำรายได้ประมาณ 80-90 ล้านบาทต่อปี รองลงมาก็เป็น
ระบบรายงานบัญชีสินค้าเข้าออกแบบไร้เอกสาร
(e-Manifest) ทำรายได้ประมาณ
18 ล้านบาทต่อปี
มีกลุ่ม
E-Service ที่ดูเหมือนกำลังจะเติบโตและสร้างรายได้ให้กับบริษัทอยู่
10.79 ล้าน และ 17.30 ล้านบาทตามลำดับ
ส่วนกลุ่ม
E-Payment ที่น่าจะทำเงิน
แต่กลับไม่ทำเงินนั้น ผมวิเคราะห์ได้ว่ายังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไหร่นัก
และมีบริการที่ซ้ำซ้อนกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆที่ชิงแบ่งเค้กรายได้ไปก่อนหน้านี้แล้ว
งบดุล
บริษัทมีหนี้สิน
106 ล้านบาท มีสินทรัพย์ 198 ล้านบาท มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนค่อนข้างสูง
แต่เงินสดก็มีเยอะอยู่ประมาณ 50% ของสินทรัพย์
อยู่ดีๆการที่มีหนี้เยอะขึ้นในปี
2557 หนี้เพิ่มขึ้น 50กว่าล้าน ภายใน 1 ปี
แปลว่าต้องมีการลงทุนใหญ่ (สำหรับขนาดบริษัท ไซส์นี้) ซึ่งคงเป็นการขยายระบบรองรับการเติบโตของธุรกิจ ก็คาดหวังว่าการลงทุนในครั้งนี้อาจจะมีอะไรดีๆตามมา
บริษัทดูเหมือนยังไม่มีอะไรน่าสนใจ
แต่เมื่อดูงบกำไรขาดทุนพบว่า มีอะไรที่น่าสนใจเสียแล้ว
บริษัท
NETBAY มีกำไรขั้นต้น
71% ถือว่าสูงมาก
มีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ค่อนข้างสูง 41%
มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำมาก
และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 25% ถือว่าค่อนข้างดี
สัดส่วนการถือหุ้น
ต้องบอกว่าเป็นของนายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ 75% และของบริษัท INET อีก 25%
ดูๆไปแล้วเหมือนบริษัทนี้จะมีเจ้าของคนเดียวเบ็ดเสร็จมาก
หลังจากเมื่อเข้ามากระจายหุ้นแล้วสัดส่วนจะเป็นดังนี้
แสดงว่ามีจำนวนหุ้นน้อยมาก
แค่ 40 ล้านหุ้นเท่านั้นที่ออกขายให้แก่ประชาชน จากปริมาณหุ้นทั้งบริษัท 200 ล้านหุ้น
อันนี้ข่าวก็สร้างกระแสกันไปนะครับ
สรุป
หุ้นตัวนี้
มีรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคงกับหน่วยงานของรัฐที่ใช้บริการอยู่ (กรมศุลกากร) แต่ดูแล้วการเติบโตของยอดขายในส่วนนี้น่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ ไม่เกิน 10%
ต่อปี
ส่วนที่ยอดขายกำลังจะโตอย่างรวดเร็วนั้นน่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจด้าน
E-Service ที่ให้บริการกับ
สำนักปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และลูกค้าที่เป็นหน่วยงานทางการเงินที่ต้องคอยตรวจสอบ
คัดกรองลูกค้าทางการเงิน
ที่เป็นกฎหมายใหม่
และยังไม่มีคู่แข่งมากรายนัก แนะนำให้จับตาดูรายได้ส่วนนี้ถ้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ
แสดงว่า
หุ้นนั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้
โดยในอนาคตจะขยายการบริการไปยังธุรกิจประกันภัยรถยนต์
โดยการเคลมประกันรถยนต์ผ่านเนต
เชื่อมโยงลูกค้า บริษัทประกันภัย และอู่รถยนต์
ถ้าทำสำเร็จก็อาจจะมีรายได้มากขึ้น
จากการให้บริการส่วนนี้
สำหรับหุ้นตัวนี้ ดูแนวโน้มแล้วยังกลางๆ ให้จับตาดูไปก่อน ถ้าดีก็ดีขึ้นเลยและมีโอกาสโต
ถ้าแนวโน้มธุรกิจใหม่ไม่ดีก็จะคงที่ตามเดิม