กับบล็อกแนวนักลงทุนหุ้น ค้นหาหุ้นสบายๆสไตล์ธรรมชาติ
วันนี้ SET ทะยานไป 40 จุดทีเดียว ปิดไปที่ 1424 จุด เอาชนะแนวต้านแรกได้ที่ 1420 จุด
วันนี้เราจะมาพูดถึงขุมทรัพย์ลับที่ไม่ปรากฏในมูลค่าหุ้นนะครับ
มันคือส่วนของกิจการ การเงินที่ไปลงทุนในกิจการอื่นๆ แต่ถือครองความเป็นเจ้าของไว้
มูลค่าความเป็นเจ้าของไม่ได้ปรากฏในงบการเงินอย่างชัดเจน ต้องไปค้นข้อมูลมาเพิ่มและมาคำนวณ
จึงจะปรากฏความจริงบางอย่างให้เห็น
วันนี้ผมค้นหามาได้ตัวหนึ่ง นั่นก็คือ QH
เรามาดูกันนะครับว่าเป็นอย่างไร
| รูปที่ 1 |
จากรูปที่ 1 ในตาราง แถว A เราจะเห็นว่า
หุ้น Land & House มีจำนวนหุ้น ประมาณ 10,000 ล้านหุ้น
หุ้น HMPRO มีจำนวนหุ้น ประมาณ 8,200 ล้านหุ้น
และหุ้น QH มีจำนวนหุ้น ประมาณ 9,200 ล้านหุ้น
แถว B คือราคาต่อหุ้น แถว C คือมูลค่าตลาด C คำนวณจาก B x A นั่นเอง
แถว D คือราคาทางบัญชี และแถว E คือมูลค่าตลาดจากราคาทางบัญชี ดังนั้น E เท่ากับ A x D
| รูปที่ 2 |
แถว E ในรูปที่ 2 มาจากเปอร์เซ็นต์ความเป็นเจ้าของในการถือครองกิจการหุ้น HMPRO
ซึ่ง Land & House ถือครอง HMPRO อยู่ ประมาณ 2,100 ล้านหุ้น
และ Q House ถือครอง HMPRO อยู่ ประมาณ 1,400 ล้านหุ้น
จะเห็นได้ว่า Q House ถือครองน้อยกว่า Land & House ค่อนข้างมาก
แถว F ในรูปที่ 2 คือมูลค่าหุ้น HMPRO ที่เกิดจากราคาต่อหุ้นปัจจุบัน (ดูแถว B) ดังนั้น F = E x B
แถว G คือมูลค่าหุ้น HMPRO จากราคาต่อหุ้นทางบัญชี (ดูแถว D ) ดังนั้น G = E x D
โดยที่ค่าในวันที่ทำการคำนวณนั้น มีค่า PE และ ค่า P/BV ตามแถว H และ แถว I ในรูปที่ 2
| รูปที่ 3 |
จากรูปที่ 3 แสดงให้เห็นว่า
ราคาแฝงจาก Land & House = 2.44 บาท ต่อ หุ้น
และ ราคาแฝงใน Q House = 1.74 บาท ต่อ หุ้น
(คำนวณจาก เอาค่าในแถว F หารด้วยแถว A )
ซึ่งจำนวน ราคาแฝงจากหุ้น Land & House 2.44 บาทต่้อหุ้น แต่จะมีมูลค่าเพียง 0.27 บาท เท่านั้นหากคิดตามมูลค่าทางบัญชี เช่นเดียวกันกับ Q House จะเหลือเพียง 0.20 บาทต่อหุ้น (จากมูลค่า 1.74 บาท)
ในเมื่อมีความเสี่ยงด้านราคาที่ขึ้น ลง ผันผวน เราจึงมาหาค่าแบบ 3 กรณี
คือ แบบที่1กรณีดีที่สุด แบบที่2 กรณีที่ดีปาานกลาง และแบบที่ 3 กรณีที่เลวร้ายที่สุด
จะมีมูลค่าตาม แถว K L และ M ดังแสดงในรูปที่ 3
ดังนั้นจากกรณีนี้ หากเราพิจารณาซื้อหุ้นจากกรณีนี้ ถ้าพิจารณาเฉพาะด้านตัวเลขเพียงอย่างเดียว
ก็สมควรที่จะเลือก QH เพราะมีโอกาส เพิ่มมูลค่าไปได้ถึง 4.70 บาท มีอัพไซด์ถึง 59 % ทีเดียว
ในขณะที่ LH จะเพิ่มมูลค่าไปได้เพียง 12.74 บาท คิดเป็นอัพไซด์ 24 % เท่านั้น
แต่ในทางกลับกัน Land & House ก็มีส่วนความเป็นเจ้าของ QH อยู่หากมูลค่า QH เพิ่มสูงขึ้น
Land & House ก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย ตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คงไม่มากเท่ากับการเติบโตของ QH
ยกตัวอย่าง หาก L&H ถือครองความเป็นเจ้าของ QH 20%
หากมูลค่าหุ้น QH เพิ่มไป 60%
L&H จะมีมูลค่าเพิ่มตามเพียง 12% (มาจาก 0.20 x 60%)
เมื่อไปหารจำนวนหุ้นที่มีมากถึง 10,000 ล้านหุ้น อาจจะเหลือเป็นมูลค่าหุ้นไม่กี่บาท เท่านั้น
QH แม้จะมีเงินปันผลเฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า แต่ก็เป็นอัตราน้อยกว่าที่ไม่มากนัก
ในขณะที่โอกาสเติบโตนั้นสูงกว่ามาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น